ในเดือนกันยายน 2567 หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โครงหลังคาสำเร็จรูปประเภท “ทรัส” (Truss) ได้รับผลกระทบจากความเสียหายในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายจากน้ำ การกัดกร่อน หรือการผิดรูป อันเกิดจากความชื้นและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การซ่อมแซมและดูแลรักษาโครงหลังคาทรัสหลังน้ำท่วมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าทรัสจะยังคงมีความแข็งแรงและปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว
ปัญหาที่พบหลังน้ำท่วม
- การกัดกร่อนของโลหะ: โครงหลังคาทรัสที่ทำจากเหล็กมีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อนจากน้ำและความชื้น หากไม่ได้ใช้วัสดุป้องกันสนิมอย่างเพียงพอ การสัมผัสน้ำท่วมเป็นเวลานานอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการพังทลาย
- การบิดงอของโครงสร้าง: โครงสร้างทรัสบางครั้งอาจผิดรูปหรือบิดเบี้ยวจากแรงดันน้ำ หรือหากน้ำท่วมทำให้พื้นฐานของอาคารเกิดการทรุดตัว อาจส่งผลต่อความสมดุลของโครงสร้างหลังคา
- การสึกหรอของจุดยึดต่าง ๆ: จุดยึดของโครงหลังคาที่เป็นเหล็กหรือวัสดุโลหะอื่น ๆ อาจเกิดการคลายตัวหรือชำรุดหากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
แนวทางการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
- ตรวจสอบสภาพของโครงสร้างทรัสอย่างละเอียด: ควรตรวจสอบทุกจุดยึด ตะปูเกลียว และบริเวณที่มีการต่อกันของโครงเหล็กว่ามีการคลายตัวหรือเสื่อมสภาพหรือไม่ การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยระบุความเสียหายที่อาจไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
- ทำความสะอาดและเคลือบกันสนิม: หลังน้ำท่วม ควรทำความสะอาดโครงเหล็กจากคราบสนิมที่เกิดขึ้น และเคลือบสารกันสนิมเพื่อป้องกันการกัดกร่อนในอนาคต หากโครงสร้างได้รับความเสียหายอย่างมาก อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนโครงเหล็กบางส่วน
- เสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง: ในบางกรณีหากพบว่าโครงทรัสได้รับความเสียหายจากการบิดเบี้ยวหรือการทรุดตัวของฐานราก อาจจำเป็นต้องเสริมความแข็งแรงโดยการติดตั้งเหล็กเสริม หรือในกรณีที่เสียหายรุนแรง อาจต้องเปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมด
- ตรวจสอบการรับน้ำหนัก: น้ำท่วมอาจทำให้โครงสร้างหลังคาทรัสมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการรับน้ำหนัก ซึ่งควรทำการคำนวณใหม่เพื่อให้มั่นใจว่ายังสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย
ข้อสรุป
การซ่อมแซมโครงหลังคาสำเร็จรูปทรัสหลังน้ำท่วมถือเป็นการทำงานที่ต้องการความละเอียดและความชำนาญสูง ควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างจะยังคงมีความแข็งแรงและปลอดภัย