สำหรับการเริ่มต้นปี 2024 ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะผ่านเดือนแรกมาอย่างยากลำบาก ไหนจะปัญหาทางด้านการเงินที่หลายๆคนเริ่มติดขัดไปกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน ด้านความรัก ที่เนื้อคู่ไม่ยอมโคจรมาพบเจอกันเสียที รวมไปถึงสุขภาพที่พวกเราต้องเผชิญกับทั้งเชื้อร้ายโควิดที่คัมแบคกลับมาทุกฤดูกาล หรือแม้กระทั่งเจ้าฝุ่น PM 2.5 ที่ยังคงตามหลอกตามหลอนชาวเราให้ต้องระมัดระวังตัวกันอยู่เสมอ แน่นอนว่าเรื่องทางกายนั้นพวกเราจัดการได้ ทั้งป้องกันทั้งเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา แต่ถ้าพูดถึงสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจแล้วนั้น ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นวันนี้เราจะลดบทบาทของทางโลก หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมสักนิดสักหน่อย ด้วยแลนด์มาร์คสำหรับไหว้พระขอพร ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อเติมแต้มบุญและแรงใจในการสู้ชีวิต ณ ย่านบางนา
สำหรับย่านบางนาอันเป็นจุดทำเลทอง สำหรับการลงหลักปักฐาน สร้างครอบครัว กับพื้นที่กว่า 18 ตารางกิโลเมตร ที่ในปัจจุบันนั้นกลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังเป็นเส้นทางสัญจรที่สำคัญมากๆต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของชาวกรุงฯอีกด้วย ดังนั้นจะพลาดแหล่งแต้มบุญไปสวยๆแบบนี้ไปได้อย่างไร
7 วัดสวย แหล่งเติมแต้มบุญ ย่านบางนา
1. วัดบางนาใน
เริ่มจากวัดแรก ลงจากสถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา ออกทางออก 2 แล้วเดินย้อนกลับมาทางสี่แยกบางนา หรือจะขับรถส่วนตัวมาก็สามารถหาที่จอดรถภายในวัดได้อย่างสะดวก ภายในวัดค่อนข้างกว้างขวาง มีพื้นที่ให้เดินเที่ยวชมภายในรั้ววัด ราวๆ 8 ไร่ มีจุดให้ทำบุญค่อนข้างเยอะ ทั้งโค แพะและทำบุญโลงศพก็มีเช่นกัน ทางด้านพรุพุทธรูปซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับใครที่ต้องการกราบไหว้ ภายในวิหารใหญ่ของวัดก็มี พระพุทธสยามภูมินาถ ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารแห่งนี้ และมีพระพุทธรูปด้านซ้ายขวาเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกและหลวงพ่อโสธรตามลำดับ บอกได้เลยว่าสวยงามมาก
ทางด้านนอกมีจุดให้ทำบุญถวายสังฆทานพระภิกษุ โดยสามารถจัดเตรียมของมาเองหรือจะมาเลือกซื้อใกล้ๆวัดก็ได้ ของสำหรับใส่สังฆทานก็ตามกำลังศรัทธา มากน้อยไม่สำคัญเท่าการให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีจุดสำหรับไหว้พระขอพรอีกหลายจุดภายในบริเวณวัดอีกด้วย
วัดถูกสร้างเมื่อ พ.ศ. 2433 และได้รับพระราชทานเป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2539
สำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม ทางวัดเองก็จัดสรรพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับพุทธศาสนิกชนสายปฏิบัติ โดยในเวลาเจ็ดโมงเช้า หรือ 07.00 น. เป็นต้นไปในทุกวันพระ ทางวัดได้กิจกรรมเช่น ทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน และจัดพื้นที่สำหรับปฏิบัติธรรมเอาไว้ด้วย
2. วัดบางนานอก
ต่อจากวัดบางนาใน ก็ไปวัดบางนานอก มุ่งสู่ถนนสรรพาวุธ ด้วยรถสองแถวประจำทางสาย 1143 และ 1239 จะพบกับวัดบางนานอก ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้นอกจากอิ่มบุญจากการทำบุญไหว้พระแล้ว ยังได้บรรยากาศร่มรื่นริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถมติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย
และกิจกรรมสายบุญสำหรับวัดติดแม่น้ำจะเป็นอะไรได้นอกจากการให้อาหารปลา ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของขนมปังที่ถูกโยนลงไปในน้ำโดยที่มีปลาน้อยใหญ่ผู้หิวโหยมาจากไหนไม่ทราบรุมทึ้งก้อนขนมปัง สร้างความประทับใจให้กับสายบุญตัวน้อยๆ อย่างลูกๆหลานๆเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นกิจกรรมครอบครัวที่อบอุ่นอีกหนึ่งอย่าง
วัดถูกสร้างเมื่อราวๆปี พ.ศ. 2400 โดยแรกเริ่มเดิมทีชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า วัดปากคลองบางนา ตามตำแหน่งที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่ปากคลองบางนา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดบางนานอก ในภายหลัง
โดยได้ประดิษฐานปูชนียวัตถุ คือ พระประธานอุโบสถหลังเก่า หน้าตักกว้าง 1.5 เมตร สูง 1.13 เมตร อายุมากกว่าร้อยปี เป็น พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องปางรัตนโกสินทร์ยุคต้น ขนาดเท่าคนจริง
3. วัดศรีเอี่ยม
รอบนี้มาทางเส้นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ เดือน มิถุนายน ปี 2566 ที่ผ่านมา กับวัดศรีเอี่ยม ซึ่งอยู่ฝั่งบางนาเหนือ เดินทางสะดวกสบายโดยลงสถานีศรีเอี่ยม ชื่อเดียวกับวัดแล้ว ออกทางออก 4 เดินบนเส้นทาง Skywalk ตามถนนศรีนครินทร์ไม่กี่นาทีก็ถึงซุ้มประตูหน้าวัดที่โดดเด่น
ภายในวัดเต็มไปด้วยพระอุโบสถงดงาม ประดิษฐานพระพุทธศรีมงคลนวภูมิ พระประธานพระอุโบสถ นอกจากนี้ภายในศาลาสีขาวยังมีพระพุทธรูปอีกมากมาย สามารถเข้าไปกราบไหว้ขอพรเสริมสิริมงคล
สำหรับไฮไลท์ของวัดนี้ คงหนีไม่พ้นการลอยดอกบัวสีประจำวันเกิดเพื่อเสริมสิริมงคล ตามความหมายของภาษาดอกไม้ ดอกบัวคือพืชที่ได้รับการขนานนามให้เป็นราชินีแห่งไม้น้ำ มีความหมายถึง ความรักอันบริสุทธิ์ มั่นคงและจริงใจ เป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี ซึ่งแนะนำว่าให้เลือกสีของดอกบัวตามสีประจำวันเกิด เพื่อเพิ่มพูนโชคลาภให้ถูกโฉลกกับเรา
วัดศรีเอี่ยมแรกเริ่มเดิมทีเป็นสำนักสงฆ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2508 และได้ก่อตั้งวัดในปี พ.ศ. 2516 โดยได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดศรีเอี่ยมวัฒนาราม แต่ต่อมาตัดเหลือเพียงชื่อ วัดศรีเอี่ยม
4. วัดผ่องพลอย
มุ่งสู่เขตบางนาใต้ กับวัดผ่องพลอย หรือ วัดผ่องพลอยวิริยาราม เดิมมีชื่อว่า วัดใหม่วิริยสังฆาราม ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 และในปี พ.ศ. 2513 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งให้เป็นวัดโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในชื่อ วัดผ่องพลอยวิริยาราม
จากเซ็นทรัลบางนา สามารถเดินไปยังวัดผ่องพลอยประมาณ 30 นาที หรือโดยสารรถรับจ้างแถวนั้นก็สะดวกยิ่งขึ้น จะพบกับความร่มรื่นจากต้นไม้และพันธุ์ไม้นานาชนิด คล้ายลักษณะของวัดชนบท อาคารต่างๆทั้งอารมและอุโบสถ ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายที่วิจิตรตระการตา บวกกับพื้นที่กว้างขวางของวัดทำให้รู้สึกปลอดโปล่ง นอกจากนี้ที่วัดยังเป็นสถานศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ประกอบการปฏิบัติกรรมฐานอีกด้วย
พระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร อันเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญในวัด ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไป ได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดผ่องพลอยแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมของศรัทธาและที่พึ่งทางจิตใจของผู้มากราบไหว้สักการะ สำหรับใครที่ผ่านมาแถวย่านบางนาใต้ ควรค่าแก่การแวะเยี่ยมชมวัดและกราบไหว้ขอพร
5. วัดโยธินประดิษฐ์
ต่อมาเรามาเยี่ยมชมวัดสวยงาม ที่อยู่รอบๆเขตบางนากันบ้าง โดยเป็นวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีทิวทัศน์งดงาม ภายในวัดสะอาดสะอ้านเหมาะแก่การเที่ยวชม โดย วัดโยธินประดิษฐ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ค่อนข้างลึก การจะโดยสารรถประจำทางมานั้นจะต้องต่อรถรับจ้างอีกต่อ เพื่อเข้ามาถึงตัววัด หรือโดยสารรถสองแถว สำโรง-วัดโยธินประดิษฐ์ (สีน้ำเงิน) ซึ่งสามารถขึ้นรถจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรงได้เลย
วัดโยธินประดิษฐ์ถูกสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2407 เดิมมีนามว่า วัดโคทอง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น วัดบางวัวไทย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2417 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น วัดโยธินประดิษฐ์ ในท้ายที่สุด
ที่วัดนี้ได้ประดิษฐานพระพุทธรูปของพระศรีอารยเมตไตรย หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ที่มีความเชื่อกันว่าจะเป็นผู้มีบารมีสูงส่ง เสด็จลงมาโปรดก่อนโลกจะแตกดับ เมื่อสิ้นศาสนาพระโคดมแล้ว
ด้วยเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา ที่ค่อนข้างกว้างขวางร่มรื่น คุ้มค่าแก่การแวะมาเยี่ยมชมและไหว้พระขอพร
6. วัดคลองปลัดเปรียง
ถัดมาอีกฟากของย่านบางนา ทางทิศตะวันออก วัดสวยๆอีกแห่งที่ค่อนข้างน่าค้นหา ซึ่งเป็นวัดมอญแห่งเดียวในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทธปราการ มีที่มาจากชาวมอญในท้องที่เข้ามาจับจองที่ดินสำหรับทำนาในพื้นที่ของอำเภอ และสร้างวัดขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2526 ได้ถูกขนานนามว่า วัดคลองปลัดเปรียง ซึ่งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายตามที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศแต่งตั้ง ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีเมื่อปี พ.ศ. 2532
ในการเดินทาง สามารถเดินทางจากถนนบางนา-ตราด กม.6 เข้าซอยประมาณ 800 เมตร หรือผ่านถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยศรีด่าน 22 ก็ได้เช่นกัน
กิจกรรมไฮไลท์ของวัดมอญ ย่อมเป็นวัฒนธรรมประเพณีของชาวมอญ อย่างเช่น การรำผีมอญ ซึ่งเป็นการขอขมาหากกระทำผิด การนับถือและเลี้ยงผีบรรพบุรุษของชาวมอญ รวมไปถึงการสืบทอดศิลปะการตอกลายธงตะขาบที่ใช้สำหรับแห่ในวันสงกรานต์และวันสำคัญตามปฏิทินของชาวมอญ
7. วัดบางน้ำผึ้งนอก
ข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาจากเขตบางนา ที่ท่าเรือวัดบางนานอก ไปลงที่ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกได้เลย หรือจะโดยสารรถประจำทางสาย 138 และ 82 มาลงที่ตลาดพระประแดง จากนั้นสามารถต่อรถกะป๊อไปลงที่หน้าวัดได้เลย
วัดบางน้ำผึ้งนอกเป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีเนื้อที่ 37 ไร่ ได้รับการสันนิษฐานว่าสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2210 ต่อมาในปี พ.ศ. 2509 วัดบางน้ำผึ้งนอกได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาหลังจากสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่า แต่เดิมนั้นโบสถ์และวิหารหลังเก่าถูกปล่อยทิ้งร้าง จนกระทั่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ วิหารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ไม่มีการลดหลั่นของหลังคา ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ แต่มีลวดลายปูนปั้นประดับรูปพระนารายณ์สองกรทรงยักษ์ พร้อมทั้งตกแต่งภายในวิหารด้วยจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามแม้เต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย และมีประวัติความเป็นมาทางพุทธศาสนารวมถึงวรรณคดีของไทย เช่น รูปพระพุทธเจ้าประทับบนบัลลังก์ดอกบัว และพระแม่ธรณีบีบมวยผม ทางด้านหน้าวัด บริเวณแม่่น้ำเจ้าพระยา มีปูชนียวัตถุพระมงคลสมุทรพุทธมณีและมีพระสังกัจจายน์ประดิษฐานอยู่
ภายในวัดยังมีพระประธาน คือ หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ องค์ใหญ่ประดิษฐานภายในอุโบสถเก่า ซึ่งได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งเป็นช่วงที่พระพุทธเจ้าปราบมารผจญด้วยบารมี ประดิษฐานในวิหารหลังเก่า เป็นที่สักการะบูชาสำหรับชาวพุทธสายบุญที่พลาดไม่ได้
และไฮไลท์ของเราสำหรับวัดบางน้ำผึ้งนอกแห่งนี้ ก็คือ การได้ไปกราบสักการะพระมงคลสมุทรพุทธมณีพระพุทธรูปองค์ใหญ์ที่งดงาม ประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าวัด ท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำที่สดชื่นและพืชไร่ที่ร่มเย็นตลอดบริเวณวัด
การเดินทางท่องเที่ยวภายในบทความนี้ก็ได้จบลง เราได้เห็นว่าย่านบางนาและพื้นที่รอบๆ มีวัดสวยๆ บรรยากศดีแตกต่างกันไปถึง 7 วัด เหมาะสำหรับการทัวร์ของสายบุญ เพื่อไปสักการะบูชาและไหว้พระขอพร รวมถึงประกอบพิธีทางศาสนาตามวันสำคัญต่างๆ เติมแต้มบุญให้จิตใจของเรานั้นผ่องใส พร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างมีสติ สมาธิและปัญญา ที่เพียบพร้อม ไม่ว่าอุปสรรคจะมากมายและยากเย็นเพียงใด ขอให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น